Legal High: โลกอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้อยู่แค่ว่าอะไรถูกอะไรผิด

ละครญี่ปุ่นอีกหนึ่งเรื่องที่เราชอบเล่าให้คนรอบข้างฟังก็คือ
เรื่องนี้ค่ะ "Legal High"

ความพิเศษของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่แค่ที่
"ความสนุก" "นักแสดงเล่นดี" แต่รวมถึง "มุมคิด" ในเรื่อง
ที่ค่อนข้างแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ

และเป็นเรื่องที่ทำให้เราเริ่มมองโลกในอีกมุมหนึ่งขึ้นมา
ก็เลยอยากจะลองแชร์เกี่ยวกับข้อคิดในเรื่องนี้ค่ะ

"Legal High" เลือกที่จะนำเสนอแนวคิดที่คนส่วนใหญ่
"เชื่อกันอยู่แล้ว" มานำเสนอในมุมมองที่ต่างออกไป
จะเห็นได้ว่า เจ้าตาโคมิคาโดะ เซนเซย์เนี่ย จะได้เป็น
ทนายฝ่ายที่ "ดูเหมือนจะผิดเต็มๆ" แทบทุกคดี
แต่โคมิคาโดะ เซนเซย์ ก็ "ไม่เคยแพ้" เลยสักครั้ง

คราวนี้มาดูกันค่ะว่า แนวคิดเดิมๆ ที่โคมิคาโดะชี้ทาง
ให้เห็นอีกมุมหนึ่งมีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ


1. เงินซื้อได้ทุกอย่าง: "แค่มีเงินก็ชนะคดีความได้แล้ว"

ด้วยความสามารถของโคมิคาโดะ เซนเซย์
ทำให้เขาเป็นทนายที่ใครๆ ก็อยากให้มาช่วยว่าความให้
แต่สิ่งสำคัญที่จะจ้างทนายคนนี้ได้ก็คือ "เงิน" จำนวนมหาศาล
มันสะท้อนให้เห็นว่า "เงิน" เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิต
"มันซื้อชีวิตที่ดีกว่าเดิม" ได้

เหมือนกับที่ใครหลายคนในสังคมมักพูดว่า
"แค่มีเงินก็ชนะคดีความได้แล้ว"


แต่สำหรับเรื่องนี้ มันทำให้เรามองไกลออกไปอีกค่ะว่า
จริงๆ มันไม่ใช่แค่เรื่อง "เงิน"
มันไม่ใช่แค่ว่า มีเงินแล้วคดีก็จะพลิกโดยไม่ต้องทำอะไร
แต่คดีจะพลิกได้เพราะ "ตัวกฎหมาย" และคนที่ใช้อำนาจของกฎหมายนั้น
ก็คือ "ทนายความ" นั่นเอง

สิ่งที่โคมิคาโดะ เซนเซย์ทำ ไม่ใช่การไปกระซิบผู้พิพากษาว่า
"ตัดสินให้ข้างผมชนะเถอะนะ"
แต่สิ่งที่เขาทำคือ ใช้ความสามารถที่มีแสดงให้ทุกคนในศาลได้เห็นว่า
"เขาคือผู้ชนะ"

ต่อให้คุณมีเงินมาก แต่ไปใช้กับทนายความที่ไม่เก่ง
ก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้ก็เป็นได้... ฉะนั้น คุณต้องมีทั้งเงิน และกึ๋นด้วย

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

2. ทนายความเป็นผู้ผดุงยุติธรรม

ใครคิดว่า "ทนายความ" เป็นผู้ผดุงยุติธรรมบ้างคะ
ถ้าคุณคิดอย่างที่ว่า โคมิคาโดะ เซนเซย์จะบอกว่า
"ผมให้คะแนนความเป็นทนายที่ 0 คะแนน"

อ้าว! ทำไมเป็นยังงั้นล่ะ!?

มายุซุมิ เซนเซย์ ทนายความหน้าใหม่ที่มีใจอยากผดุงยุติธรรม
เธอก็ถูกโคมิคาโดะ เซนเซย์ให้คะแนนไปเต็ม 0 ค่ะ
พร้อมกับไขความกระจ่างของโลกอีกใบให้ฟังว่า

"สิ่งที่เธอคิดว่ามันยุติธรรม มันก็เป็นเพียงแค่ความเห็นใจของเรา
ที่จะเปลี่ยนไปตามความน่าสงสารของแต่ละคนที่มายืนอยู่ตรงหน้าเธอ"

แล้วมายุซุมิ เซนเซย์ก็ถามอีกว่า "แล้วความยุติธรรมมันจะอยู่ที่ไหนล่ะ"
โคมิคาโดะ เซนเซย์ ก็เลยตอบว่า

"เธอควรจะคิดว่าความยุติธรรมก็คือพวกฮีโร่ในหนังสือการ์ตูน
พวกเราจะนำพลังของเราต่อสู้เพื่อลูกความของเราให้ดีที่สุด
นั่นคือสิ่งทั้งหมดที่ทนายความสามารถทำได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น!"

ฉากนี้เหมือนกับมายุซุมิ เซนเซย์ทำเสียแผน
ไปช่วยลูกความอีกฝั่งที่ดูเหมือนจะถูก โดยใช้ความน่าสงสารตัดสิน
เรื่องนี้ทำให้โคมิคาโดะ เซนเซย์โกรธมากเหมือนกันค่ะ
เพราะถึงกับบอกเลยว่า

"ถ้าทำให้เสียแผน ฉันจะถอดใบเข็มทนายความของเธอ!"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

3. ความจริง คือสิ่งที่ถูกต้อง

เวลามีปัญหาเกิดขึ้น แน่นอนว่าเราต้องหาคนถูก คนผิด
ส่วนในศาลก็ต้องพิสูจน์ว่ามีใครได้กระทำในสิ่งที่ผิดต่อกฎหมายหรือไม่

พอเกิดเรื่องแบบนี้ คนส่วนใหญ่จะมองว่า
"ฉันจะต้องหาความจริงให้ได้"
หรือออกแนวแบบ "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว"
ถ้าอยากได้ข้อสรุป ต้องหาความจริงเพียงหนึ่งให้เจอ

แต่ให้ตายเถอะ! "ความจริง" ที่ว่าน่ะ ไม่มีใครรู้อย่างแท้จริงหรอก!
นึกสภาพนะคะ เราเป็นทนายความ เราจะไปฟันธงว่า
คนนี้ถูก คนนี้ผิด ทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ เพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
ไปกับโจทก์ หรือจำเลย คนรู้ความจริงก็มีแค่โจทก์ หรือจำเลยนั่นแหละ
แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าฝ่ายไหน "พูดความจริง"?

มายุซุมิเซนเซย์ :      "แล้วอะไรคือความจริงล่ะคะ"
โคมิคาโดะ เซนเซย์:  "พวกเราไม่ใช่พระเจ้า เราเป็นแค่นักกฎหมาย
                            มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้ว่าความจริงคืออะไร"

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

4. เปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น ด้วยการมองโลกให้สวยงามกันเถอะ!

ประเด็นนี้ดูเหมือนจะเป็น Theme หลักของเรื่องเลยค่ะ
ที่นำเสนอให้เห็นว่า จริงๆ โลกมันไม่ได้สวย
และโลกสวยไม่ได้ทำให้โลกมันดีขึ้นจริงๆ

มิหนำซ้ำ การที่เราทำตัวแบบว่าฉันเป็นคนมองโลกในมุมที่ดี
ฉันอยากช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ผู้โง่เขลา
เป็นก็ดูเหมือนเป็นการดูถูกเพื่อนร่วมโลกแบบทางอ้อม
ประมาณว่า เราสถาปนาตัวเองไปในตัวว่า "ฉันดีกว่า" "จิตใจฉันสูงส่งกว่า" เป็นการบอกว่าคนอื่น "แย่กว่า" ตัวเอง

แต่จริงๆ แล้ว การที่จะทำให้โลกสงบสุขได้นั้น
ไม่ใช่เริ่มที่อยากจะเปลี่ยนแปลง
แต่คือ "การยอมรับในสิ่งที่เป็น" ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
และหาวิธีอยู่กับมันให้ได้ ไม่ว่ามันจะโสมมแค่ไหนก็ตาม!
(ดาร์กฝุดๆ)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

5. ทำไม่ดีตามบรรทัดฐานสังคม คือคนเลว

แหม! มาประเด็นนี้ อะไรกันที่จะทำให้เรารู้ว่าใครดี ใครเลว
เพียงเพราะว่าเขาไม่ทำตามศีลธรรม หรือบรรทัดฐานความดียังงั้นเหรอ?

เรื่องนี้ทำให้เห็นว่า บางคนที่ภายนอกดูเหมือนไม่ดี
หรือเหมือนกำลังทำในสิ่งที่ไม่ควร แต่จริงๆ แล้ว
อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิดก็ได้ อย่างเช่น

- คุณหมอลองยา เป็นคนที่มีเจตนาฆ่าคน ไม่เห็นคุณค่าในชีวิตคนจริงเหรอ
จริงๆ เขาคือคนที่เห็นค่าของมนุษย์มากกว่าใครต่างหากล่ะ?

- เลิกกับเมียที่หน้าตาไม่สวย ใจแคบ คบคนที่ภายนอก
ถ้าคบกันได้ด้วยใจจริงๆ จะมีสถาบันลดความอ้วน ทำศัลยกรรมไปทำไม?

- หัวหน้างานที่ใช้งานลูกน้องอย่างเกินควร
แต่ก็แค่อยากจะสร้างอัจฉริยะที่มีฝีมือเลิศล้ำกว่าใคร

- คนที่ชอบอาละวาด ด่ากราดใส่คนอื่น
แท้จริงอาจมีใครยั่วยุอยู่เบื้องหลัง

- เปลี่ยนชนบทให้เป็นเมืองหรู เป็น "การทำลาย" 
หรือเป็นแค่เพียง "การพัฒนา" ?

- เหตุฆาตกรรมวางยาพิษทำให้คนอื่นให้แก่ความตาย
คนทำผิดไม่จำเป็นต้องเป็นฆาตกรเสมอไป?

ก็นั่นแหละค่ะ ตัดสินอะไรไม่ได้ นอกจากหลักฐานที่เห็นแจ้งเป็นที่ประจักษ์เท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สุดท้าย: แล้วเราจะมี "กฎหมาย" ไว้ไปเพื่ออะไร

โคมิคาโดะ เซนเซย์ได้บอกมาอย่างนี้ค่ะ....

"เราไม่ใช่พระเจ้ากันนะครับ ผมเองก็ไม่ใช่
มนุษย์เป็นเพียงแค่สัตว์โลกตัวเล็กๆ ที่ทำทำผิดพลาดกันได้
เพียงเพราะความโง่เขลาของเรา แล้วมนุษย์ที่เป็นแบบนี้
จะไปตัดสินคนอื่นได้เหรอ? แน่นอนว่าไม่ได้

เพราะแบบนี้ในโลกมนุษย์ของเราเลยต้องมีกฎหมายและผู้พิพากษา
ไม่ว่าจะน่าสงสัยอย่างไร ไม่ว่าจะน่าเกลียดชังแค่ไหน
คนเราไม่ควรตัดสินคนอื่นด้วยอารมณ์
แต่ควรใช้กฎหมายที่อ้างอิงจากหลักฐานเป็นหลัก

เพราะแบบนี้แหละ ท่ามกลางประวัติศาสตร์อันยาวนาน
ของมนุษยชาติเราจึงได้สิ่งอันล้ำค่าที่เรียกว่า
ประเทศที่ปกครองด้วยรัฐธรรมนูญนี้ขึ้นมา"

ก็เพราะว่ามนุษย์ไม่สามารถไปตัดสินใครได้ตามอำเภอใจ
เราจึงจำเป็นต้องมีกฎหมายนั่นขึ้นมา และแม้แต่คนที่ใช้อำนาจของกฎหมาย
ก็ไม่สามารถใช้ตามความใจชอบได้ แต่ต้องมีหลักฐานเป็นหลัก

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ประเด็นเรื่องนี้มีเยอะแยะมากมายค่ะ
บางอย่างก็ดู "ต้านโลก" ไปนิด แต่พอดูแล้วคิดตามก็รู้สึกว่า
"เออ ก็ใช่อย่างที่พูดนะ"

ละครญี่ปุ่นน้ำดีอีกเรื่อง ที่จะมาให้มุมมองใหม่ๆ ว่า
โลกนี้อาจไม่ได้สำคัญแค่ว่าอะไร "ถูก" หรืออะไร "ผิด"
แต่อยู่ที่เนื้อเรื่องประกอบของเรื่องราวนั้นๆ และเหตุผลที่ตามมาอยู่ข้างหลัง
และที่สำคัญไม่ควรตัดสินอะไรไปแค่ "ความรู้สึกของตัวเอง"

:)

Picture Source: www.fujitv.co.jp