Johnny Kitagawa ผู้ปั้นไอดอลชายที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น ต้นแบบความแปลกที่นำมาซึ่งความสำเร็จ

Leave a Comment


สำหรับคนที่ชื่นชอบไอดอลฝั่งญี่ปุ่น คงไม่มีใครไม่รู้จักค่าย  Johnny&Associates (J&A)  หรือที่เรียกกับติดปากว่า "ค่ายจอห์นนี่"
ค่ายเพลงศิลปินไอดอลอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ก่อตั้งโดย "Johnny Kitagawa"



Credit Pic :
https://jenewsdaily.wordpress.com/2012/10/18/johnny-kitagawa-involved-in-traffic-accident/ 


ลุงจอห์นนี่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีความเฉียบคมด้านการตลาดมาก เห็นได้จากตรงที่ว่าศิลปินของเขาส่วนใหญ่ ก้าวขึ้นแท่นอันดับ 1 ของออริกอนชาร์ตมาแล้วหลายคน ถึงกับลงสถิติในกินเนสบุ๊คเลยค่ะ ในญี่ปุ่นไม่มีใครไม่รู้จักศิลปินของค่ายจอห์นนี่ เรามาทำความรู้จักกับชายคนนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของไอดอลกันค่ะ




ความแปลกของลุง Johnny Kitagawa ที่นำมาซึ่งความสำเร็จ


ลุงจอห์นนี่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีความแปลกมากๆ ค่ะ แต่ความแปลกของลุงก็แอบมีการตลาดดีๆ แอบแฝงอยู่ เช่น


1. ชื่อวงไอดอลวงแรกกับชื่อบริษัทเป็นชื่อเดียวกัน



ชื่อวงไอดอลวงแรกมาจากชื่อทีมเบสบอลที่ลุงจอห์นนี่เคยเป็นผู็จัดการมาก่อนค่ะ วันหนึ่งลุงก็ได้แรงบันดาลใจในการทำธุรกิจจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ลุงก็เลยหันมาทำบริษัท Entertainment แล้วเอาทีมเบสบอลนั้น มาปั้นเป็นนักร้อง และใช้ชื่อวงว่า "จอห์นนี่" ศิลปินคนแรกของค่ายกับค่ายมีชื่อเดียวกัน แกคงกลัวว่าคนจะไม่รู้ว่าเป็นนักร้องของค่ายแกล่ะมั้งคะ  แต่ถ้าดูให้ดี นี่คือเทคนิคทางการตลาดค่ะ



 การใช้ชื่อวงไอดอลเป็นชื่อเดียวกับบริษัท อย่างน้อยก็เป็นการสร้างการรับรู้ชื่อบริษัทตัวเองไปในตัว เปิดตัวครั้งแรก ก็ได้รู้จักทั้งไอดอลและชื่อบริษัทไปในตัว


2. ไม่คัดศิลปินไอดอลจากเสียงร้อง


แน่นอว่าอาชีพนักร้อง สิ่งสำคัญที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของการ "ร้องเพลง" แต่สำหรับลุงจอห์นนี้แล้ว เขาไม่คัดคนจากน้ำเสียงค่ะ แต่คัดจาก "การเต้น" รุ่นแรกๆ เนี่ย พวกคนที่มาออดิชั่น ก็จะออกมาเต้นๆ ให้ดูค่ะ ใครเต้นดีก็ผ่านไป  แต่เห็นยังงี้ลุงเขาก็มีเหตุผลอยู่ค่ะว่า เวลาคัดไอดอลเนี่ย จะคัดกันตั้งแต่อายุยังน้อย และในตอนนั้นเนี่ยหนุ่มๆ เสียงเขาก็ยังไม่แตกหนุ่มกันเลย คัดด้วยเสียงไป วันหนึ่งเสียงเด็กพวกนั้นก็ต้องเปลี่ยนอยู่ดี จะกลายเป็นว่าเสียประโยชน์เปล่าๆ  สิ่งที่ดูได้แน่ๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลงในภายหลังก็คือ สกิลในการเต้นเนี่ยแหละ และที่สำคัญ ความสามารถของไอดอล นอกจากจะร้องแล้ว การเต้นก็สำคัญนะ ก็เลยคัดจากการเต้นค่ะ



3. บุคลิกเหมือนภารโรง

อันนี้ไม่ได้จะดูถูกแกนะคะ แต่เป็นเรื่องที่ใครต่อหลายคนพูดถึงกันค่ะ
อย่างยามะพีเอง ในวันที่มาออดิชั่น ก็ไปเห็นลุงจอห์นนี่หยิบยกเก้าอี้ เก็บกวาดห้องอยู่ และแกก็คงรู้แหละว่า ถูกคนมองว่าเป็นภารโรง ก็เลยชอบหันมาพูดว่า


"เห็นยังงี้ ฉันเป็นถึง Johnny Kitagawa นะ" 


อู้ยยยย กลัวแล้วจ้าาา ด้วยบุคลิกแปลกๆ ของแกเนี่ยแหละ เลยเป็นประเด็นให้ตามรายการทีวีชอบเอาแกเป็นล้อเลียน อิมมม หรือจะเป็นการสร้าง Signature ให้เป็นที่จดจำหรือเปล่านะ!


4. ฝึกซ้อมเด็กโหดๆ เพื่อให้ไปเต้นในซอกหลืบ

ลุงจอห์นนี่เป็นประธานบริษัทที่ไม่ได้บริหารงานอย่างเดียว แต่ถึงขั้นลงมาฝีกซ้อมร้อง ซ้อมเต้นให้เหล่าไอดอลด้วยค่ะ ลุงก็จะให้ซ้อมเต้น ฝึกกายบริหาร ตีลังกา กระโดดโลดโผนทุกสัปดาห์ แล้วเอาไปเต้นเป็นแดนเซอร์ในคอนเสิร์ต  บางคนก็อยู่ในตำแหน่งซอกหลีบไม่ได้โดดเด่นอะไร ถ้าโชคดีหน่อย ไปเข้าตาเหล่าแม่บ้านล่ะก็ ก็อาจจะได้เดบิวต์เป็นศิลปิน และเล่นละครต่อไปค่ะ เรียกได้ว่า อาจเป็นการเทสต์เรตติ้งก่อนก็ได้นะคะ จับเด็กขึ้นไปเต้นก่อน ถ้ามีแฟนๆ โดนใจค่อยปั้น 


5. ความแปลกในการตั้งชื่อวง

ลักษณะโดดเด่นของศิลปินไอดอลค่ายนี้ก็คือชื่อวงค่ะ มันจะมีชื่อแปลกๆ อ่านยากๆ เช่น SMAP หลายคนคงรู้จักวงนี้ดีค่ะ (วงที่มีทาคุยะ คิมูระเป็นหนึ่งในสมาชิก) ตอนแรกที่เราได้ยินชื่อนี้ก็สัมผัสได้ถึงความแปลกค่ะ และมารู้อีกทีว่าจริงๆ มันก็มีที่มานะ มันเป็นตัวย่อของคำว่า "Sports and Music Assemble People"


หรือจะเป็นว่า KAT-TUN อ่าาาา....มันแปลว่าอะไรวะเนี่ย ชามะนาวเกาหัวหยิกๆ อีกแล้ว และมารู้อีกทีว่า "อ๋ออออ มันมาจากอักษรย่อของชื่อสมาชิกในวงนะ"


วง Arashi ดูจะมีที่มา มีความหมายมากที่สุดแหละคะ ในวันเดบิวต์ไอบะจังได้อธิบายว่า

"เอ่ออ...คำว่า Arashi เนี่ย ถ้าดูตามภาษาญี่ปุ่น
คำว่า "อะ" ก็เป็นพยัญชนะตัวแรกของญี่ปุ่น
ส่วนในภาษาอังกฤษ ตัว A ก็เป็นพยัญชนะตัวแรกของอังกฤษ
มีความหมายในเชิงว่าเป็นที่หนึ่ง 
และความหมายของ Arashi ก็คือพายุ
เราก็อยากจะสื่อว่า 
เป็นพายุลูกใหม่ที่หมุนแรงแซงโค้งในวงการครับ"


อันนี้ดูจะเข้าใจสุดแหละ จริงๆ... แต่ด้วยความแปลกของชื่อนี่แหละ
ก็ทำให้เป็นที่จดจำของแฟนๆ บางทีเห็นแค่ชื่อก็รู้แหละว่า
เป็นเด็กจอห์นนี่ เพราะไม่มีค่ายไหนแล้วที่ตั้งชื่อแบบนี้...



6. กฎข้อห้ามสารพัด

กฎบางข้อ แฟนๆ ก็ไม่ได้เห็นเป็นลายลักษณ์อักษร หรือลุงจอห์นนี่ออกมาพูดแต่อย่างใด แต่เป็นกฎที่ใครๆ ก็รู้กันดีว่า ถ้าจะเป็นไอดอลค่ายนี้นะ ห้ามออกเดท ห้ามสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนบรรลุนิติภาวะ ห้ามรับของจากแฟนคลับด้วย รับได้แต่จดหมาย


ซึ่งบางข้อห้ามก็ดูเป็นข้อดีค่ะ อย่างเรื่องบุหรี่ แอลกอฮอล์ จริงๆ ก็เป็นข้อห้ามทางกฎหมายด้วย ก็แลดูเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสาธารณะดี อย่างสูบบุหรี่ ถ้าถูกจับตานี่ ถึงกับห่างหายไปจากวงการเลยนะคะ ไม่ใช่แค่ถูกพักงานเฉยๆ ส่วนเรื่องแต่งงานลุงบอกว่า ถ้าถึงวัยอันสมควร ก็มีครอบครัวไปเถอะ เพราะครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต


7. ไอดอลแทบทุกวงมีรายการเป็นของตัวเอง

เราคงเข้าใจว่าไอดอลมีหน้าที่หลักในการร้องเพลง อาจโผล่ไปแสดงละครบ้าง แต่ลุงจอห์นนี่ไม่หยุดแค่นี้ค่ะ ไอดอลของลุงต้องมีรายการเป็นของตัวเองด้วย กลายเป็นว่ามีทั้งงานเพลง งานละคร และงานรายการ เรียกได้ว่า ไม่มีวันไหนที่จะไม่เห็นเด็กลุงทางหน้าจอทีวีเลยค่ะ! คือ เริ่มแรก ไอดอลในค่ายก็ร้องเพลงอย่างเดียวแหละค่ะ แต่เรื่องสภาพเศรษฐกิจ ลุงเลยหากลยุทธ์อื่นๆ มา นั่นก็คือ ส่งไอดอลไปเล่นละคร และมีรายการทีวีเป็นของตัวเองค่ะ ก็ประสบความสำเร็จมากๆ เลยทีเดียว 


8. ลุงไม่ชอบอินเตอร์เน็ต!

ลุงจอห์นนี่ถือว่าเป็นประธานบริษัมที่ค่อนข้างหัวโบราณค่ะ แกไม่ชอบอินเตอร์เน็ตเอามาก  ในสมัยก่อนเว็บไซต์ของค่ายจอห์นนี่ ถือว่าเป็นเว็บที่ล่าหลังสุดๆ ถ้าเทียบกับค่ายอื่น แถมในเว็บก็ไม่ให้ลงรูปศิลปินในค่ายด้วย! รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ก็ห้ามค่ะ เรียกได้ว่าสมัยก่อน หารูปไอดอลค่ายจอห์นนี่ในเน็ตได้ยากมาก จะหารูปทีก็ต้องหาตามหนังสือ นิตยสาร หรือไม่ก็สินค้าของจอห์นนี่เท่านั้น

แต่ระยะหลังๆ ลุงแกก็หยวนๆ เลยทำให้เห็นรูปดารา-ศิลปินในค่ายแก ตามเน็ต ตามเว็บบ้าง ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ผลงานของค่ายนี้ ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างน้อยค่ะ ทั้งภาพ ทั้งคลิป หายากสุดๆ! ถ้าอยากได้ทำไงคะ? ก็ต้องซื้อค่ะ ถ้ามองอีกแง่นึงก็คือ เหมือนเป็นการตลาดของลุง ทำให้ขายสินค้าได้ ดูเป็นการบังคับซื้อกลายๆ แล้วยังไงเงินทองจะไปไหน นอกจากจะเข้ากระเป๋าลุงสิคะ!



9. ผู้มีสายตาอันเฉียบคม ปั้นเด็กดังมาทุกราย

จริงๆ ข้อนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นพรสวรรค์มากกว่าความแปลก แต่การที่แกมองใครแล้วปั้นมาสำเร็จแทบทุกรายเนี่ย มันเลยเข้าขั้นความแปลกค่ะ แกปั้นไอดอลให้ก้าวขึ้นเป็นไอดอลอันดับ1 มาหลายคนแล้ว จนถึงขั้นบันทึกลงกินเนสบุ๊คเลยค่ะ น้อยคนนักที่จะทำแบบนี้ได้ ก็เลยขอยกให้เป็นอีกหนึ่งความแปลกของแกค่ะ


นอกจากนี้นักร้องแต่ละคนที่ก้าวเข้ามาในค่ายแรกๆ นะคะ ธรรมดามากเลยค่ะ บางคนนี่หน้าตาบ้านๆ มาก แต่ยิ่งอยู่ไป ยิ่งหล่อ มหัศจรรย์มาก 

เคสศิลปินที่ลุงปั้นก็เช่น วง Hey Say JUMP ตอนนั้น ในวงยังเด็กๆ กันมาก ลุงบอกว่า


"โตขึ้นทุกคนวงนี้จะกลายเป็นเทพบุตร"


ตอนนั้นชามะนาวยังไม่เก็ท ดูไม่ออกเลยค่ะว่ามันจะเทพบุตรยังไง
พอมาตอนนี้หนุ่มๆ โตกันแล้ว ลองดู "ยูโตะ" สิคะ *เคลิ้ม*

Credit Pic: 
http://nakajimaxyuto.tumblr.com/post/108833686326/rikoyamada-tv-guide-person-vol29-2015-122



หรือจะเป็นวง Sexy Zone ชื่อวงมางงๆ ตอนนั้นสมาชิกในวงเด็กมาก ยังไม่ถึงวัยเสียงแตกหนุ่ม แต่ชื่อวงไปทาง Sex Appeal มาก ลุงบอกว่า 

"เนี่ย โตขึ้นเขาจะเป็นศิลปินที่เซ็กซี่สุดๆ"



Credit Pic: http://shimukendou.livejournal.com/13083.html

ตอนนั้นชามะนาวยังไม่เก็ทค่ะ เห็นเด็กแบ้วๆ ใสๆ มันจะเซ็กซี่ยังไงวะ มองภาพไม่ออกจริงๆ  แต่ก็เพิ่งมาเห็นภาพก็ตอนนี้นี่แหละค่ะ โตเป็นหนุ่มแล้ว เซ็กซี่ มีเสน่ห์อย่างที่ลุงบอกไว้จริงๆ ช่างเป็นคนที่สายตาเฉียมคมจริงๆ ค่ะ


10. ลุงไม่ชอบออกสื่อ

แม้ลุงจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการบันเทิง แต่หาตัวแกเจอมากค่ะ ลุงแกไม่ค่อยออกสัมภาษณ์กับสื่อ รูปแกตามอินเตอร์เน็ตก็ไม่ค่อยมี ไม่เชื่อลองกดเสิร์ชสิคะ เจอน้อยมาก เหตุผลส่วนตัวนี่ ไม่มีใครรู้ค่ะ แต่พอแกสร้างภาพลักษณ์แบบนี้ มันทำให้เราเห็นสิ่งหนึ่งค่ะ คนเราถ้าจะเก่ง จะดังจริง ไม่ต้องพรีเซ็นต์ตัวเองแบบเว่อร์วังอลังการมาก คนเจ๋งจริง ต่อให้อยู่ในซอกหลืบ ยังไงคนก็เห็นและสรรเสริญ



แม้ลุงจอห์นนี่จะมีความแปลกไปบ้าง แต่บางทีความแปลกนี่แหละค่ะที่นำมาซึ่งความสำเร็จ การที่กล้าคิดอะไรแปลกๆ ก็นำมาซึ่งไอเดียดีๆ ดีกว่าเดินอยู่ในกรอบธรรมดา เดิมๆ ที่ไม่ออกไปไหนสักที


และนี่ก็คือเรื่องราวของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ไอดอลหนุ่มๆ จากค่ายจอห์นนี่ค่ะ ผู้ที่สร้างนักร้องหนุ่มๆ หล่อๆ มีเสน่ห์แพรวพราว มาให้เราได้ฟินกัน! 

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น