ฉากแบบนี้ไม่ถูกเซ็นเซอร์ในญี่ปุ่น

วันนี้จะมาว่าด้วยฉากที่ดูเหมือนจะรุนแรงแต่สามารถฉายในละครได้แบบผ่านฉลุย โดยไม่ต้องเซนเซอร์ จะมีฉากอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ

1. ฉากยิงกันเลือดสาด

อ้างอิงรูปภาพ: ละครญี่ปุ่นเรื่อง Ando Lloyd A.I.I Love You

จริงๆ ฉากแบบนี้ในละครไทยก็ไม่ถูกเซ็นเซอร์สักเท่าไรค่ะ แต่ถ้าเปลี่ยนดีกรีมาเป็นละครญี่ปุ่นแล้ว เราจะเห็นไม่น้อยฉากเลยที่พอเวลามาฉายในไทยจะถูกเซ็นเซอร์ ทั้งปืนบ้าง เลือดบ้าง หรือมีดที่ใช้แทงกันบ้าง สำหรับละครญี่ปุ่นแล้ว ฉากที่ว่าจะไม่ถูกเซ็นเซอร์เลยค่ะ แถมมีละครแนวสืบสวนสอบสวนเยอะเสียด้วย ฉากฆาตกรรมนี่เห็นหมดค่ะ บางเรื่องอาจดูแล้วรู้สึกว่ารุนแรง หดหู่ แต่เพราะฉากแบบนี้แหละค่ะ มันทำให้คนดูเข้าใจว่า ความรุนแรง ความทรมาน และความโหดร้ายในการทำร้ายคนอื่นมันเจ็บปวดยังไง ดูทีไรก็ไม่กล้าไปทำร้ายใครต่อจริงๆ เลยค่ะ

2. ฉากผ่าตัดเห็นตับ ไต ไส้ พุง แบบจังๆ

ในละครญี่ปุ่นจะมีพวกละครแนวหมอๆ เยอะค่ะ โดยเฉพาะละครแนวผ่าตัด ในเมื่อเป็นละครแนวผ่าตัดสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจริงๆ ก็คือ "ฉากผ่าตัด" ค่ะ ทีนี้พอถึงฉากนี้เขาจะทำยังไง ผ่าแบบหลบมุมกล้องหรือเปล่า หรือตัดฉากมาที่คุณหมอออกมาบอกคนไข้ว่า "คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ" แบบนั้นไหม ขอบอกว่า...ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ

ไม่กล้าเอาภาพแบบจะๆ มาให้ดูค่ะ
ถ้าใครอยากเห็นแนะนำให้ไปดูในซีรีส์ญี่ปุ่นแนวๆ หมอ
อย่างเช่นเรื่อง Iryu Team Dragon ได้เลยค่ะ ถึงพริกถึงขิง เนื้อหาก็สนุกค่ะ

อ้างอิงรูปภาพ:
 http://hakusan-hari.com/痔・痔・痔/３人に１人は悩む「お尻」の悩みについて　その3/

ในละครญี่ปุ่นจะเผยให้เห็นถึงขั้นตอนการผ่าตัดแบบถึงพริกถึงขิงเลยจริงๆ เห็นหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ตับ ไต ไส้ พุง ตัวละครเห็นยังไง เราก็เห็นยังไง แม้ภาพจะแหยะๆ หน่อย แต่ดูไปดูมามันก็ไม่ได้สยองอย่างที่คิดค่ะ เพราะเราดูในแง่การแพทย์ ดูเพื่อศึกษาเรื่องสรีระของมนุษย์ ดูแล้วได้ความรู้เพิ่มเติมอีกต่างหาก ถ้าไม่มีฉากที่ว่านี้ ดีไม่ดีอาจดูไม่รู้เรื่องเลยล่ะค่ะ

3. ฉากเลิฟซีน 18+

อ้างอิงรูปภาพ: http://asianwiki.com/Second_Love

ฉากเลิฟซีนที่ว่า ไม่ใช่แค่กอดจูบนะคะ มันก็จะมีบางเรื่องที่ถึงขั้นขึ้นเตียง แต่ก็ไม่ถูกเซ็นเซอร์แต่อย่างใด เพราะเขาจะใช้เทคนิคเล่นมุมกล้อง ถ่ายภาพออกมาไม่ให้เกินเลย และที่สำคัญก่อนที่จะมีฉากอย่างว่านี่ ก็ต้องมีเหตุมีผลค่ะ ไม่ใช่ดูจงใจแบบเอะอะปล้ำ เอะอะจูบกันมากเกินไป หรือบางเรื่องที่มีฉากแบบนี้เยอะไป เขาจะมีมาตรการอย่างอื่นมารองรับ และแน่นอนว่า ไม่ใช่การเซ็นเซอร์ แต่จะเป็นมาตรการอะไรนั้น เดี๋ยวจะมาเล่าในบทความต่อไปค่ะ

4. ฉากที่มีคำหยาบ

ใครดูละครบ่อยๆ เชื่อว่าคงจะได้ยินคำหยาบ หรือคำไม่สุภาพในละครญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ จนบางทีเราเผลอเอามาใช้จนติดปากอย่างไม่รู้ตัวก็มีค่ะ ตัวอย่างก็เช่น คำสระเอะทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น "สุเก" ที่มาจากคำว่า "สุโก้ย" ที่แปลว่า "สุดยอด" หรือ "อุรุเซ่" ที่มาจากคำว่า "อุรุไซ่" ที่แปลว่า "รำคาญ หนวกหู" ซึ่งคำสระเอ้พวกนี้จะเป็นคำที่พวกผู้ชายเขานิยมใช้กัน ผู้หญิงใช้ไม่ค่อยเหมาะเท่าไร หรือพวกคำด่าเช่น "บากะ" ที่แปลว่า "บ้า"

คือสำหรับละครบางเรื่อง ด้วยเนื้อหา ด้วยคาแร็กเตอร์ของตัวละคร ทำให้ไม่สามารถพูดเพราะๆ ออกไปได้ อย่างเช่น บทยากูซ่า จะให้ยากูซ่าไปพูดว่า "เอ่อ...ขอโทษนะครับ ช่วยกรุณาอย่ามาบุกรุกถิ่นของพวกผมได้ไหมครับ ไม่งั้นจะยิงนะ" มันก็ดูไม่น่าเกรงขามซะเลยค่ะ มันต้องเป็นแบบนี้ "เฮ้ย! พวกเอ็งมาเหยียบถิ่นกูได้ไง ถอยไป! ไม่งั้นยิงไส้เละแน่!" อะไรประมาณนี้ น่าจะอินกว่า...

หรือถ้ามีเซ็นเซอร์ก็จะออกแนวจงใจเล่นเป็นมุก แบบนี้...

อ้างอิงรูปภาพ: ละครญี่ปุ่นเรื่อง Legal High

ละครจงใจเซ็นเซอร์เองเพื่อเพิ่มความตลก(?) ให้กับคนดู รวมถึงเสียดสีถึงการเซ็นเซอร์เบาๆค่ะว่า ทำไมถึงพูดไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติที่ใครๆ ก็รู้ เนี่ย พอเซ็นเซอร์ไป มันก็ขาดอรรถรสนะ

5. ฉากเสียดสีสังคม

พวกละครที่มีเนื้อหาเสียดสีสังคม ไม่ว่าจะเป็นแนวการเมือง การพูดถึงด้านมืดขององค์กรบริษัท ด้านมืดของวงการตำรวจ ความยุติธรรมอะไรก็แล้วแต่ มักจะฉายได้โดยไม่มีการระงับกลางอากาศค่ะ แม้ละครพวกนี้จะเสียดสีบ้างอะไรบ้าง แต่เขามักจะดูที่เจตนามากกว่าค่ะว่า ผู้สร้างละครมีจุดประสงค์อะไร สร้างความร้าวฉานให้กับสังคม หรือเพื่อชี้นำสังคงให้ไปในทิศทางที่ดีกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้ทำให้ละครญี่ปุ่นมักจะสร้างละครที่ทำมาเพื่อพัฒนาสังคม หรือให้แง่คิดที่หลากหลาย

ละครญี่ปุ่นแนวการเมืองในตำนาน
แค่ดูก็รู้แล้วว่ามีเจตนาสร้างขึ้นมาเพื่อชี้นำสังคมไปในทิศทางที่เหมาะสม

อ้างอิงรูปภาพ: https://ruangreview.wordpress.com/tag/drama-jepang/

แต่ก็มีบ้างกับละครที่ถูกสั่งระงับ แต่ผลสุดท้ายจะฉายต่อหรือไม่ฉายต่อก็ขึ้นอยู่กับผู้สร้าง เจ้าของสถานีโทรทัศน์ อย่างประเด็นเรื่อง "Ashita Mama ga Inai" โดยสังคมวิจารณ์อย่างหนักเลยค่ะว่า เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตเด็กกำพร้า แต่ด้วยเจตนาที่ดีของผู้สร้าง ทางช่องเลยเชื่อมั่นว่า แม้ไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุนเลยสักเจ้า ก็จะฉายต่อไป เพราะเชื่อว่า "นี่คือละครที่ดี"

Ashita Mama ga Inai ละครญี่ปุ่นที่ถูกสังคมเรียกร้องให้แบน
แต่ก็ยังออนแอร์ต่อไปจนจบ แม้ไม่มีสปอนเซอร์สนับสนุนแม้แต่รายเดียว
ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากให้คนดูดูจนจบก่อนแล้วค่อยตัดสินว่าเป็นละครที่ทำร้ายสังคมจริงหรือไม่!

อ้างอิงงรูปภาพ: http://asianwiki.com/Tomorrow,_Mom_Won't_Be_Here_(Ashita,_Mama_ga_Inai)

 ฉากละครที่ดูเหมือนจะรุนแรง แต่ฉายได้ในละครญี่ปุ่นโดยไม่ถูกเซ็นเซอร์ก็มีประมาณนี้ค่ะ ว่าแต่ว่า...ทำไมละครญี่ปุ่นถึงฉายฉากพวกนี้ได้ มีวิธีการอะไรมารับมือการฉากแรงๆ หรือไม่เหมาะสมบางฉากนอกจากการเซ็นเซอร์ เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังต่อ ในบทความตอนหน้าค่าาา :)